เมริล สตรีป (Meryl Streep) ชื่อดังและได้รับความยอมรับสูงในวงการภาพยนตร์

เมริล สตรีป (Meryl Streep) เป็นนักแสดงชื่อดังและได้รับความยอมรับสูงในวงการภาพยนตร์และละครการทั่วโลก และถูกพูดถึงว่าเป็น “นางแบบความสามารถ” และ “นางแบบอเมริกา” ซึ่งได้รับรางวัลและความชื่นชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีผลงานทางละครเช่นการแสดงเพลงสด นักพูด และการนำทางโทรทัศน์

เมริล สตรีปเกิดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2509 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวเธอเป็นนักศึกษาของจุลภาคศิลปะในมหาวิทยาลัยเอวีแรสชิงตัน และได้รับปริญญาตรีในสาขาภาษาดั้งเดิม หลังจากนั้นเธอได้เริ่มต้นความสนใจในการแสดงช่วงนักศึกษา

เมริล สตรีปเริ่มต้นอาชีพการแสดงในปี พ.ศ. 2523 และได้เปิดตัวในละครเพลง “The Playboy of Seville” ในบริษัทนักแสดงสวนคอร์นล์ในนิวยอร์ก ในปีต่อมา เธอได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์ที่ฉีดฉายในละคร “Trelawny of the Wells” ที่มีละครดังและทำการแสดงในโรงละครแบรอดเวย์ในปี พ.ศ. 2526 เมื่อปี พ.ศ. 2527 เธอได้เคยเล่นในการรับบทในละครที่เล่นในโรงละครของมหาวิทยาลัยยอร์ก และในปี พ.ศ. 2528 เธอได้มีส่วนร่วมในการแสดงที่เริ่มแสดงในละครของบริษัท “The Acting Company” ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลอนาลีในปี พ.ศ. 2529

ในปี พ.ศ. 2532 เมริล สตรีปได้เริ่มต้นการแสดงในภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง ครั้งแรกเธอได้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์ “Julia” และได้รับรางวัลเอ็มมี่ในปี พ.ศ. 2533 สำหรับภาพยนตร์ “The Deer Hunter” ที่เธอได้รับชื่อเสียงมากที่สุดในภาพยนตร์แนวดราม่า หลังจากนั้นเธอได้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์ “Kramer vs. Kramer” (พ.ศ. 2536) และ “Sophie’s Choice” (พ.ศ. 2539) ซึ่งทั้งสองภาพยนตร์เธอได้รับรางวัลออสการ์ในครั้งแรก

ตั้งแต่นั้นไป เมริล สตรีปได้รับความยอมรับอย่างต่อเนื่องในวงการภาพยนตร์ และเธอได้แสดงบทบาทที่หลากหลายและท้าทายในหลากหลายแนว ซึ่งทำให้เธอเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ยังคงเป็นที่สนใจของนักวิจารณ์และผู้ชม นอกจากการแสดงในภาพยนตร์เธอยังมีผลงานทางละครตัวเองและนำทางโทรทัศน์ที่มีความสำคัญดังเช่นละคร “Angels in

America” (พ.ศ. 2546) และ “Big Little Lies” (พ.ศ. 2560) ซึ่งเธอได้รับรางวัลแอ็มมี่ในปี พ.ศ. 2561 สำหรับบทบาทในละคร “Big Little Lies”

เมริล สตรีปได้รับรางวัลออสการ์ทั้งหมด 3 ครั้งและเป็นผู้ที่ได้รับคัมกาเลอร์เพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ของรางวัลนี้ นอกจากนี้เธอยังได้รับรางวัลอีมมี่ 2 ครั้ง รวมถึงรางวัลทอนี่ 1 ครั้ง และบอดี้อวอร์ด 1 ครั้ง และเธอยังเป็นนักแสดงที่ได้รับเสนอชื่อเสียงมากที่สุดในรางวัลโลกทองคำ ซึ่งเธอได้รับรางวัลครองเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2537 และรางวัลครองเป็นครั้งสองในปี พ.ศ. 2547 นอกจากนี้เธอยังได้รับเกียรติบัตรเนื่องในวงการศิลปะแห่งสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2557 ในการรับรางวัลสูงสุดในหมวดการแสดง สุดท้ายนอกจากนี้เธอยังได้รับรางวัลเขตส่วนอำเภอคังแคนของครั้งในรางวัลแอ็มมี่ในปี พ.ศ. 2559 และรางวัลคังแคนของครั้งในรางวัลทอนี่ในปี พ.ศ. 2561

All 75 Movies Meryl Streep Has Been in, Ranked From Best to Worst

ใครคือเมริล สตรีป?

เมริล สตรีปเริ่มต้นอาชีพการแสดงในวงการภาพยนตร์นิวยอร์กในช่วงสิ้นสมัยของปี ค.ศ. 1960 และปรากฏตัวในละครบรอดเวย์หลายเรื่อง เมื่อสตรีปเปลี่ยนรูปแบบไปสู่ภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1970 เธอได้เริ่มรับรางวัลชื่อดังและได้รับรางวัลออสการ์สำหรับ “Kramer vs. Kramer,” “Sophie’s Choice” และ “The Iron Lady,” ระหว่างรับเสนอชื่อเสียงมากมาย โดยสุดท้ายได้รับรางวัลออสการ์ในสามครั้ง

อาชีพเริ่มต้น

เกิดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ปี ค.ศ. 1949 ที่เซอมมิท รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมริล สตรีปถูกพิจารณาเป็นหนึ่งในนักแสดงคืออยู่ในปัจจุบัน เธอเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยวาสซาร์และโรงเรียนนักแสดงเยล ซึ่งเธอมีความสามารถเท่าเทียมกันในการแสดงทั้งในละครและหน้าจอ และเริ่มต้นอาชีพการแสดงของเธอในละครในนิวยอร์กในปลายคริสต์ศตวรรษ ค.ศ. 1960 และปรากฏตัวในละครบรอดเวย์หลายเรื่อง รวมถึงการนำทางในละครของ อานต่อ แชคฮอฟ ในละคร “The Cherry Orchard” ในปี ค.ศ. 1977

ภาพยนตร์

“The Deer Hunter,” “Kramer vs. Kramer”
เมริล สตรีปเริ่มต้นในภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1970 ด้วยบทบาทในภาพยนตร์ “Julia” ในปีถัดมา เธอปรากฏตัวในภาพยนตร์ “The Deer Hunter” ข้างกับ โรเบิร์ต ดี นิโร่ และ คริสโตเฟอร์ วอลเคิน ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์ครั้งแรกในประเภทนักแสดงหญิงตัวย่อยที่ดีที่สุด ในปีเดียวกัน ในปี ค.ศ. 1978 เธอได้รับรางวัลเอ็มมี่ครั้งแรกของเธอสำหรับบทบาทในภาพยนตร์ “Holocaust” ในปี ค.ศ. 1979 การแสดงของเธอในบทบาทของผู้หญิงที่ละทิ้งครอบครัวแล้วกลับมาและต่อสู้เพื่อควบคุมลูกชายในภาพยนตร์ “Kramer vs. Kramer” ได้นำเสนอรางวัลออสการ์ครั้งแรกของเธอสำหรับนักแสดงหญิงตัวย่อยที่ดีที่สุดในปีเดียวกัน

เมริล สตรีปได้สัมผัสกับบทบาทในหลายทำเลที่สามารถเป็นเสนอชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์และละครเมื่อเธอทำภาพยนตร์เรื่องแรกในปี พ.ศ. 2532 และตั้งแต่นั้นไปเธอยังคงมีผลงานที่ครบครันและมีความสำคัญในการแสดงอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลายาวนาน และเธอยังคงเป็นนักแสดงที่ยังคงเป็นที่สนใจและความชื่นชมของผู้ชมทั่วโลก ในปัจจุบันเธอยังคงมีความพยุงค์ในวงการภาพยนตร์และการละครดังกล่าว และยังคงมีการสร้างผลงานที่น่าประทับใจและเป็นที่นิยมในวงการภาพยนตร์เป็นอย่างสูง

ในภาพยนตร์ “Sophie’s Choice” (1982) เธอแสดงบทบาทของผู้หญิงโปแลนด์ที่ถูกทารุณกรรมด้วยประสบการณ์ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง และเธอได้รับรางวัลออสการ์ครั้งที่สอง (และครั้งแรกในบทบาทนักแสดงหญิงที่ดีที่สุด) สำหรับการแสดงของเธอในภาพยนตร์นี้ ในภาพยนตร์ “Out of Africa” (1985) เธอรับบทของเจ้าของไร่ดานิชที่มีตัวตนเป็นคนเดนมาร์กที่อาศัยอยู่ในเคนย่า บทบาทนี้ได้นำเสนอให้เธอได้รับเสนอชื่อเสียงออสการ์อีกครั้ง

ในช่วงเวลาที่มาถึงที่เธอครบกำหนดอายุ 40 ปี เมริล สตรีปยังคงพบบทบาทที่ท้าทาย ซึ่งเป็นสิ่งที่นักแสดงหญิงที่อายุเก่าทำได้ยากในฮอลลีวูด ภาพยนตร์ “Postcards from the Edge” (1990) และภาพยนตร์ “The Bridges of Madison County” (1995) ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของแคร์รี ฟิชเชอร์ และภาพยนตร์โรแมนติกของโรเบิร์ต เจมส์ วอลเลอร์ ในภาพยนตร์นี้ เธอรับบทนำข้างไปกับคลินต์ อีสต์วูด นอกจากนี้ เธอยังได้รับเสนอชื่อเสียงออสการ์สำหรับบทบาทในภาพยนตร์ “Music of the Heart” (1999) ซึ่งเล่าเรื่องราวของครูที่นำเสนอดนตรีให้กับเด็กๆ ในย่านฮาร์เลมของนิวยอร์กโดยการสอนวิออลิน

เมื่อเริ่มสมัยใหม่ในปี ค.ศ. 2002 เมริล สตรีปเป็นอย่างคึกคักเช่นเดิม ในปีนั้น เธอปรากฏตัวในภาพยนตร์สองเรื่องที่ได้รับความยอมรับอย่างสูง คือ “The Hours” และ “Adaptation” เธอได้รับเสนอชื่อเสียงสำหรับบทบาทของนักเขียน ซูซัน โอเรียนในภาพยนตร์ “Adaptation” ในปีถัดมา เธอปรากฏตัวในหน้าจอเล็กในการปรับมาทีวีของละครที่ได้รับรางวัลอย่าง “Angels in America” ที่ได้นำทางให้เธอได้รับรางวัลเอ็มมี่ครั้งที่สองสำหรับการแสดงของเธอในโปรแกรมนี้ ที่เธอเปลี่ยนบทได้หลากหลายรูปแบบ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *